ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงาม
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอ เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ที่นี่นอกจะเป็น ทุ่งดอกกระเจียวถือเป็นไฮไลต์ที่เด่นที่สุดของการมาท่องเที่ยวที่นี่การมา เที่ยวชมที่นี่ นักท่องเที่ยว จะได้สัมผัสกับทุ่งบัวสวรรค์หรือ ดอกกระเจียว ราชินีแห่งมวลไม้ดอกของขุนเขาป่าหินงาม ออกดอกสีชมพูอมม่วง ที่จะ ทยอยผลิบานเป็นระยะเวลา 2 เดือน ที่ออกปีละครั้ง ชูช่อล้อสายลมและสายหมอก ขึ้นเต็มทั่วผืนป่า ทุ่งดอกกระเจียว ถือเป็น ไฮไลต์ท่องเที่ยวช่วงฤดูฝนแห้งแล้งจะกลับคืนสู่ความเขียวขจี และแต่งแต้มด้วยความ สดใส ของกระเจียวที่ผิดอกสีชมพูเต็มทุ่งหญ้ากว้าง ด้วยความงดงามตระการตาของดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มไป ทั่วผืนป่า ตัดกับพื้นสีเขียวขจีของหญ้าเพ็ก และโขดหินธรรมชาติ อีกทั้งรูปลักษณ์สวยงาม วิจิตรพิสดารทำให้เป็นทุ่งดอกกระเจียวใน อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เป็นทุ่งดอกกระเจียวที่ใหญ่ที่สุด และงดงามที่สุดในประเทศไทย
ดอกกระเจียว
ป่าหินงาม
น้ำตกตาดโตน
เข้าเมืองไทย ในเวลาใกล้เคียงกับพ่อพระยาแล (พระยาภักดีชุมพล) ท่านบำเพ็ญตนเป็นชีปะขาวยึดมั่นในสมถะ กรรมฐาน ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และช่วยรักษาคนไข้ เป็นที่นับถือเลื่อมใสของราษฎรมาก เมื่อถึงแก่กรรมจึง มีีการสร้างศาลขึ้นเพื่อเป็นที่เคารพสักการะไว้หลายแห่ง นอกจากที่น้ำตกตาดโตนแล้วยังมีศาลปู่ด้วงที่ช่อง สาม หมอกและที่วัดชัยภูมิพิทักษ์อีกด้วย มักมีประเพณีรำผีฟ้า ผีทรงบวงสรวงเจ้าพ่อเป็นประจำ มีทางลาดยางตลอด ถึงน้ำตก
ฤดูกาลท่องเที่ยว
- ฤดูฝน ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน น้ำตกตาดโตน จะมีน้ำไหลเต็มที่และสวยงาม
- ฤดูฝน ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน น้ำตกตาดโตน จะมีน้ำไหลเต็มที่และสวยงาม
มอหินขาว
เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ถือว่า
มีความงดงามทางธรรมชาติไม่แพ้ทุ่งดอกกระเจียวงาม ซึ่งตั้งอยู่ใน
เขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา บริเวณบ้านวังคำแคน หมู่ 9 ตำบลท่าหินโงม
อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิเดิมพื้นที่ แถวนี้ เป็นป่า
ต่อมาได้มีคนมาบุกเบิกทำไร่และก็เห็นมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ทั่วไปแต่
ก็ไม่ได้สนใจอะไร ที่ไร่ มันสำปะหลัง (ในสมัยนั้น) แต่จากเสียงบอกเล่า
มีคนเคยเห็นว่าแปลกประหลาดมาก ก็คือก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน ที่ในทุกคืนวันพระ
(15 ค่ำ, 8 ค่ำ) จะมีแสง สีขาวส่องขึ้นมา คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น
เลยเรียกที่นี่ว่า มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมือง
ไทย“เสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาว ส่วนใหญ่ เป็นหินทรายสีขาว
นอกจากนี้ก็ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง
หากมาท่องเที่ยวในฤดูฝน นอกจากนักท่องเที่ยว จะได้ พบเห็น
ประติมา้กรรมทางธรรมชาติที่สวยงามของเสาหินแล้ว
ยังได้พบดอกไม้ป่าที่บ้านสะพรั่งอยู่ทั่วมอหินขาวดูแล้ว เป็นภาพที่
สวยงามและน่าชมนัก
หากคุณได้เข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งป่าเขาที่นี่แล้วจะชวนคุณหลงใหลมิรู้
ลืมจน”มอหินขาว” แห่งนี้เคย
ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ของท่านมุ้ย
เรื่องพระนเรศวรมหาราช มาแล้ว นี่คืออีกหนึ่งความท้าทายของ
นักแคมป์ปิ้งไม่ควรพลาดได้มาพิสูจน์กัน
มอหินขาว มีกลุ่มหินอยู่หลายแห่งด้วยกัน เมื่อ
เรามาถึงมอหินขาว ก็จะถึง กลุ่มหินชุดแรก คือ “เสาหิน 5 ต้น”
เป็นหินที่มีความสูง ประมาณ 12 เมตร จำนวนหนึ่งใน 5
มีต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ขนาด 22 คนโอบ เสาหิน 5 ต้นนี้นับเป็น
เสาหินที่เด่นที่สุด และเป็น ไฮไลต์ของการมาเที่ยวมอหินขาว
มอหินขาวกลุ่มหิน 5 ต้น
กลุ่มหินโขลงช้าง
อุทยานแห่งชาติไทรทอง
อยู่ริมเขื่อนแก่งกระจานวิวสวยที่สุด อากาศบริสุทธิ มีสระว่ายน้ำ ภัตตาคาร
อุทยานแห่งชาติไทรทอง ครอบคลุมพื้นที่ป่าบนเทือกเขาพังเหย
ในอำเภอหนองบัวระเหว เทพสถิต ภักดีชุมพล และหนองบัวแดง มีเนื้อที่ 319
ตารางกิโลเมตร
เป็นป่าต้นน้ำลำธารของลำห้วยหลายสายซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำชี
สภาพป่าเป็นป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ผสมกับป่าเบญจพรรณ
มีต้นไผ่รวกขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก
นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม ภายในเขตอุทยานฯ
มีสถานที่น่าสนใจ
ผาหำหด ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นสันเขาตรงจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย สูงจากระดับน้ำทะเล 864 เมตร เป็นจุดชมวิวมองเห็นทิวทัศน์สวยงาม และมีชะง่อนหินยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นจุดที่ถ่ายภาพได้สวยงามน่าหวาดเสียว
หินเทิน เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ขนาดกว้าง 10 เมตร สูง 5 เมตร ตั้งอยุ่บนก้อนหินที่เล็กกว่ากันมากได้อย่างสมดุลโดยไม่ร่วงหล่น
จุดชมวิวเขาพังเหย อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 (ชัยภูมิ-นครสวรรค์) ประมาณกิโลเมตรที่ 70 เป็นที่แวะพักรถยนต์และชมทิวทัศน์ของผืนป่าและแนวสันเขาสลับซับซ้อนของเขา พังเหย เมื่อมองลงไปเบื้องล่างจะเห็นที่ราบภาคกลางในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นบริเวณ กว้าง โดยเฉพาะในช่วงยามเย็นที่อาทิตย์จะอัสดง
อุทยานฯ มีบ้านพักรับรองและสถานที่กางเต็นท์พักแรม และร้านอาหารบริการ ติดต่ออุทยานแห่งชาติไทรทอง
การเดินทาง
จากตัวเมืองชัยภูมิใช้ทางหลวงหมายเลข 225 (ชัยภูมิ-นครสวรรค์) ประมาณ 65 กิโลเมตร มีป้ายบอกทางแยกขวาไปที่ทำการอุทยานฯอีก 7 กิโลเมตร
ผาหำหด ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นสันเขาตรงจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย สูงจากระดับน้ำทะเล 864 เมตร เป็นจุดชมวิวมองเห็นทิวทัศน์สวยงาม และมีชะง่อนหินยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นจุดที่ถ่ายภาพได้สวยงามน่าหวาดเสียว
หินเทิน เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ขนาดกว้าง 10 เมตร สูง 5 เมตร ตั้งอยุ่บนก้อนหินที่เล็กกว่ากันมากได้อย่างสมดุลโดยไม่ร่วงหล่น
จุดชมวิวเขาพังเหย อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 (ชัยภูมิ-นครสวรรค์) ประมาณกิโลเมตรที่ 70 เป็นที่แวะพักรถยนต์และชมทิวทัศน์ของผืนป่าและแนวสันเขาสลับซับซ้อนของเขา พังเหย เมื่อมองลงไปเบื้องล่างจะเห็นที่ราบภาคกลางในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นบริเวณ กว้าง โดยเฉพาะในช่วงยามเย็นที่อาทิตย์จะอัสดง
อุทยานฯ มีบ้านพักรับรองและสถานที่กางเต็นท์พักแรม และร้านอาหารบริการ ติดต่ออุทยานแห่งชาติไทรทอง
การเดินทาง
จากตัวเมืองชัยภูมิใช้ทางหลวงหมายเลข 225 (ชัยภูมิ-นครสวรรค์) ประมาณ 65 กิโลเมตร มีป้ายบอกทางแยกขวาไปที่ทำการอุทยานฯอีก 7 กิโลเมตร
พระธาตุหนองสามหมื่น
วัดพระธาตุหนองสามหมื่น ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 บ้านแก้ง ภูเขียว ชัยภูมิ วัดราษฎร์ เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญและน่าสนใจมากแห่งหนึ่งของชัยภูมิ ตั้งอยู่ที่บ้านแก้ง จากตัวเมืองชัยภูมิเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูเขียวไปจนถึงบ้านหนองสองห้องระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2055 อีก 9 กิโลเมตรถึงบ้านแก้งและแยกซ้ายไปวัดพระธาตุหนองสามหมื่นอีกประมาณ 5 กิโลเมตร พระธาตุหนองสามหมื่น เรียกชื่อตามหนองน้ำ ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัด เป็นพระธาตุที่มีลักษณะสวยงาม และสมบูรณ์ที่สุดองค์หนึ่ง ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใดแต่จากลักษณะทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่ปรากฏ เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างศิลปล้านนา ล้านช้าง และอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 ในสมัยพระไชยเชษฐาธิราชแห่งราชอาณาจักรลาว พระธาตุหนองสามหมื่นมีลักษณะเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ตั้งอยู่บนฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความสูงประมาณ 45 เมตร มีบันไดทางขึ้นทั้งสี่ด้าน เหนือฐานเขียงเป็นฐานบัวคว่ำบัวหงายรองรับองค์พระธาตุ ซึ่งมีซุ้มทั้งสี่ทิศ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง และปางลีลา ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า รูปแบบดังกล่าวอาจเปรียบเทียบได้กับพระธาตุอื่นๆ ทั้งในนครเวียงจันทน์และในเขตไทย เช่น พระธาตุวัดเทพพล เมืองเวียงคุก จังหวัดหนองคาย พระธาตุศรีเมือง นครเวียงจันทน์ เป็นต้น น้ำตกเทพประทานเขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนน้ำพรม |
เขื่อนจุฬาภรณ์ (เขื่อนน้ำพรม) ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งพระ สร้างปิดกั้นลำน้ำพรมบนเทือกเขาขุนพาย บริเวณที่เรียกว่า ภูหยวก ลักษณะเขื่อนเป็นเขื่อนหินถม แกนกลางเป็นดินเหนียวบดอัดทับแน่นด้วยหินและกรวด ตัวสันเขื่อนยาว 700 เมตร ความสูงจากฐานราก 70 เมตร กว้าง 8 เมตร เป็นลักษณะเขื่อนเอนกประสงค์ในความดูแลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยใช้ประโยชน์ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าและยังอำนวยประโยชน์ในด้านชล ประทาน ช่วยระบายน้ำเพื่อการเพาะปลูกในฤดูแล้ง ในพื้นที่การเกษตร นอกจากนี้ในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดอีกด้วย
บริเวณเขื่อนมีทิวทัศน์ที่งดงาม อากาศเย็นสบายตลอดปี จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ ภายในบริเวณเขื่อนมีบ้านพัก ร้านอาหารไว้รับรองนักท่องเที่ยว เรือสำหรับให้ล่องชมอ่างเก็บน้ำ มีจุดชมวิวทิวทัศน์เหนือเขื่อน ศูนย์ทดลองพืชเมืองหนาว และหอดูดาว ติดต่อบ้านพักรับรองของการไฟฟ้าฝ่ายผลลิต โทร. 0 4486 1669 บ้านพักสถานีทดลองและฝึกอบรมเขื่อนจุฬาภรณ์ (ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น) โทร. 0 4338 4969 ต่อ 2787
สวนรุกขชาติน้ำผุดทัพลาวตั้งขึ้นในปี พ.ศ.
2536 ตามที่จังหวัดชัยภูมิได้เสนอ ในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม
บ้านผาเบียด
หมู่ 2 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีตาน้ำผุดใต้ดิน มีพื้นที่ประมาณ 160 ไร่
ลักษณะภูมิประเทศ
พื้นที่เป็นที่ราบเชิงเขา มีตาน้ำผุดขนาดใหญ่ผุดขึ้นกลางบ่อน้ำ ใสสะอาดปราศจากกลิ่น ไหลเป็นลำธารในสภาพดินลูกรังปนทราย สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณ
การเดินทาง สวนรุกขชาติน้ำผุดทัพลาวตั้งอยู่ที่บ้านผาเบียด หมู่ 2 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ในเส้นทางจากอำเภอคอนสาร ไปตัวเขื่อนจุฬาภรณ์ โดยอยู่ห่างจากตัวอำเภอ ประมาณ 13 กม.
หมู่ 2 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีตาน้ำผุดใต้ดิน มีพื้นที่ประมาณ 160 ไร่
ลักษณะภูมิประเทศ
พื้นที่เป็นที่ราบเชิงเขา มีตาน้ำผุดขนาดใหญ่ผุดขึ้นกลางบ่อน้ำ ใสสะอาดปราศจากกลิ่น ไหลเป็นลำธารในสภาพดินลูกรังปนทราย สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณ
การเดินทาง สวนรุกขชาติน้ำผุดทัพลาวตั้งอยู่ที่บ้านผาเบียด หมู่ 2 ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ในเส้นทางจากอำเภอคอนสาร ไปตัวเขื่อนจุฬาภรณ์ โดยอยู่ห่างจากตัวอำเภอ ประมาณ 13 กม.